

วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ.ตฤณ แจ่มถิน
วันจันทร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558
ครั้งที่ 5 เวลาเรียน 08.30 - 12.00 น.

กิจกรรมในห้องเรียน
วาดภาพมือตัวเอง
เนื้อหาที่เรียน การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
ทักษะของครูและทัศนคติ
การฝึกเพิ่มเติม
การเข้าใจภาวะปกติ
การคิดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
ความพร้อมของเด็ก
การสอนโดยบังเอิญ
อุปกรณ์
ตารางประจำวัน
ทัศนคติของครู
ความยืดหยุ่น
การใช้สหวิทยาการ
การเปลี่ยนพฤติกรรมและการเรียนรู้
เด็กทุกคนสอนได้
เทคนิคการเสริมแรง แรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
วิธีการแสดงออกถึงแรงงเสริมจากผู้ใหญ่
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
การแนะนำหรืออกบท
ขั้นตอนการเสริมแรง
การกำหนดเวลา
ความต่อความเนื่อง
การลดหรือหยุดแรงเสริม
ครูต้องมีความคงเส้นคงวา
เพลงฝึกกายบริหาร
เพลงผลไม้
เพลงกินผักกัน
เพลงดอกไม้
เพลงจ้ำจี้ดอกไม้
การประเมิน



อุกปรณ์ที่ใช้ในกิจกรรม
นำถุงมือใส่ข้างที่ไม่ถนัดจากนั้นก็เริ่มวาดมือตนเอง
และนี้ก็คือภาพที่วาดออกมา
มือเมื่อไม่ได้ใส่ถุงมือ
จากกิจกรรมที่ทำวาดภาพมือของตนเองที่เห็นอยู่กันทุกวันเป็นระยะเวลานานถึง20ปีเรายังวาดรายละเอียดของมือเราเองได้ไม่ครบเมื่อเปรียบเทียบกับการบันทึกพฤติกรรมเด็กคือคนเป็นครูอย่าคิดว่าตนเองจะจำได้ว่าเด็กแสดงพฤติกรรมใดบ้างโดยการคิดว่าเดี๋ยวค่อยบันทึกก็ได้เพราะที่จริงแล้วเราอาจจะลืมและเกิดความผิดพลาดก็ได้เราอาจจะใส่ความรู้สึกหรือแสดงความคิดเห็นของตนเองลงไปทำให้การบันทึกนั้นๆไม่ถูกต้องตามหลักความจริง ดังนั้นครูควรจะบันทึกพฤติกรรเด็กทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมออกมา ครูควรมีกระดาษและปากกาเพื่อเตรียมพร้อมกับการบันทีกอยู่ตลอดเวลา


( ครูต้องมองเด็กทุกคนให้เป็นเด็กเหมือนกันทุกคน )

- อบรมระยะสั้นๆ สัมมนา
- สื่อต่างๆ

- เด็กมักมีความคล้ายกันมากกว่าแตกต่าง
- ครูต้องรู้จักเด็กแต่ละคนและทุกคน
- มองเด็กให้เป็นเด็ก

- การเข้าใจพัฒนาการเด็กจะช่วยให้ครูมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย

- วุฒิภาวะ ( มีความใกล้เคียงกัน )
- แรงจูงใจ ( มีความแตกต่างกันเล็กน้อย )
- โอกาส ( เท่ากันหากอยู่ในห้องเรียน )

- ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
- เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่โอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
- ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
- ครูต้องมีความสนใจเด็ก
- ครูต้องมีความรู็สึกดีต่อเด็ก
- ครูต้องมีอุปกรณ์หรือกิจกรรมที่ล่อใจเด็ก
- ครูมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือเด็กแต่ละคนให้ได้เรียนรู้
- ครูต้องใช้เวลาในการติดต่อไม่นาน
- ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนาน

- มีลักษณะง่ายๆ
- ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
- เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
- เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ
เพิ่มเติม สื่อที่ไม่แบ่งแยกเพศเด็กและไม่ควรมีวิธีเล่นที่ตายตัว

- เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ
- กิจกรรมต้องเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้
- เด็กต้องรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ
- การสลับกิจกรรมที่อยู่เงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆ
- คำนึงถึงความเหมาะสมของเวลา


- การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
- ยอมรับขอบเขตความต้องการของเด็ก
- ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญสำหรับเด็กแต่ละคน

- ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน


- เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ
- เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส

- ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
- มีแนวโน้นจะเพิ่มเติมพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลในทันที
- หากผู้ใหญ่ไม่สนใจในพฤติกรรมที่ดีนั้นๆก็จะลดน้อยลงและหายไป

- ตอบสนองด้วยวาจา
- การยืนใกล้หรือนั่งใกล้เด็ก
- พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง
- สัมผัสกาย
- ให้ความช่วยเหลือ , ร่วมกิจกรรมกับเด็ก

- ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กพฤติกรรมอันพึงประสงค์
- ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีอละทุกครั้งที่เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
- ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์

- ย่อยงาน
- ลำดับความยากง่ายของงาน
- การลำดับงานเป้นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ

- สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
- วิเคราะห์งาน กำหนดจุดมุ่งประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละชิ้น
- สอนจากง่ายไปยาก
- ให้แรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้ หรือเมื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
- ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวไปขั้นต่อไป
- ให้แรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
- ทีละขั้น ไม่เคร่งขัด "ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น"
- ไม่ดุหรือตี

- จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม

- พฤติกรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยหลายๆอย่างรวมกัน เช่น การเข้าห้องน้ำ การนอนพักผ่อน การหยิบและเก็บของ การกลับบ้าน
- สอนแบบก้าวไปข้างหน้าหรือสอนย้อนจากข้างหลัง

- ครูงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
- เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกจากเด็ก(เอากิจกรรมออกจากเด็ก)
- เอาเด็กออกจากการเล่น

- เริ่มต้นดีอย่างไร เมื่อจบปลายเทอมก็ควรดีเหมือนตอนเริ่ม
ทดสอบหลังเรียน Post Test
- การสอนโดยบังเอิญหมายความว่าอย่างไร
- การสอนโดยบังเอิญครูพึงปฎิบัติอย่างไร
- ตารางประจำวันของเด็กควรเป็นอย่างไร
- การให้แรงเสริมต่อเด็กมีวิธีการอย่างไรบ้าง
เพลงเด็กปฐมวัย


ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว



ส้มโอ แตงโม แตงไทย
ลิ้นจี่ ลำไย องุ่น พุทรา
เงาะ ฝรั่ง มังคุด
กล้วย ละมุด น้อยหนา
ขนุน มะม่วง นานาพันธุ์



กินผักกันเถอะเรา
บวบ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว แตงกวา
คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง โหระพา
มะเขือเทศสีดา ฟักทอง กะหล่ำปลี



ดอกไม้ต่างพันธุ์ สวยงามสดสี
เหลือง แดง ม่วงมี แสด ขาว ชมพู



จ้ำจี้ดอกไม้ ดาวเรือง หงอนไก่
จำปี จำปา มะลิ พิกุล
กุหลาบ ชบา บานชื่น กระดังงา
เข็ม แก้ว ลัดดา เฟื่องงฟ้า ราตรี
ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อ.ดฤณ แจ่มถิ่น

- ตนเองเอง : แต่งกายเรียบร้อยเข้าเรียนก่อนเวลา ตั้งใจเรียนมีความสนใจในการฟังอาจารย์บรรยายเนื้อหา มีความตื่นเต้นในการทำกิจกรรมเนื่องจากอาจารย์มีกิจกรรมใหม่ๆมาให้อยู่เสมอ จดบันทักในสิ่งที่อาจารย์สอนเพิ่มเติ่มนอกเหนือมากเอกสารที่ให้มา เรียนมีความสุขอาจารย์น่ารักสอนสนุก
- เพื่อน : เพื่อนๆก็เข้าเรียนตรงเวลาแต่ก็มีบางคนที่ยังเข้าสายบ้าง แต่ทุกคนก็ตั้งใจเรียน มีการโต้ตอบเมื่ออาจารย์ถามร่้วมกันอสดงความคิดเห็น
- อาจารย์ : เข้าสอนตรงเวลาแต่งกายเรียบร้อย เตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมมาให้นักศึกษา มีเทคนิคการสอนที่ดียกตัวอย่างได้ดีทำให้เข้าใจมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น